Logo
8 เทคนิคการบริหารเวลาที่ดี บาลานซ์งานและชีวิตให้สมดุล

8 เทคนิคการบริหารเวลาที่ดี บาลานซ์งานและชีวิตให้สมดุล

มาดู 8 เทคนิคการบริหารเวลาในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ จัดสรรเวลาอย่างไรจะทำให้ชีวิตมีสมดุลมากยิ่งขึ้น มาดูความสำคัญของการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพกัน! ตั้งเป้าหมายอย่างไรถึงจะเรียกว่าสมบูรณ์หลักความสำคัญที่ต้องเรียงลำดับคืออะไร วันนี้เรารวบรวมเอาเรื่องราวเหล่านั้นมาเล่าให้ฟังกันแล้ว

ความสำคัญของการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมการบริหารเวลาจึงสำคัญ? แน่นอนว่าคนเรามีเวลา 1 วัน เท่ากับ 24 ชั่วโมงเหมือนกัน แต่ทำไมอีกคนทำงานได้มากกว่ามีผลลัพธ์ได้ดีกว่าอีกคน นั้นเพราะอีกคนใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่านั่นเอง เทคนิคการบริหารเวลาจึงมีความสำคัญในการช่วยเรียงความสำคัญก่อนหลังของสิ่งต่าง ๆ ในการทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน การบริหารเวลาจะทำให้คุณรู้ว่าสิ่งที่คุณต้องทำสิ่งไหนใช้เวลามาก สิ่งไหนที่ใช้เวลาน้อย เพื่อแบ่งเวลาในการทำงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง

8 เทคนิคการบริหารเวลาที่ดี ชีวิตปัง การงานราบรื่น

สำหรับในการทำงานนั้นมีเทคนิคการบริหารเวลาที่น่าสนใจอยู่ 8 เทคนิค คือ 

1. ตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจนด้วยหลัก SMART

เป้าหมายคือ เทคนิคการบริหารเวลาแรกที่เอามาบอกกัน SMART คือหลักการในการช่วยตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ย่อมาจากศัพท์ภาษาอังกฤษ 5 ตัวที่มีความหมายดังนี้ 

  • S คือ  Specific – เฉพาะเจาะจง
  • M คือ Measurable – วัดผลได้
  • A คือ Achievable – บรรลุผลได้, สำเร็จได้
  • R คือ Realistic – สมเหตุสมผล สอดคล้องกับความเป็นจริง
  • T คือ Timely – กำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจน

การเอาความหมายของทั้ง 5 ตัวมารวมกันจะทำให้การกำหนดเป้าหมายมีความชัดเจนและปฏิบัติตามได้ง่ายขึ้น

2. จัดลำดับความสำคัญตามหลัก The Eisenhower Box

เทคนิคการบริหารเวลาเทคนิคต่อมา คือการจัดเรียงความสำคัญหรือที่เรียกว่า The Eisenhower Box เป็นทฤษฎีอ้างอิงตามไอเซนฮาวร์ คือการเรียงลำดับงาน ดังนี้ 

  • งานที่ด่วนและสำคัญ ต้องรีบตัดสินใจทำทันที
  • งานสำคัญแต่ไม่ด่วน งานที่ต้องทำต่อจากงานด่วน
  • งานด่วนแต่ไม่สำคัญ กระจายไปให้คนอื่นช่วยทำได้
  • งานที่ไม่ด่วนและไม่สำคัญ งานที่ไม่ต้องเสียเวลาทำ

3. กำหนดเวลาในการทำงาน

เทคนิคการบริหารเวลาต่อมาคือการกำหนดเวลาในการทำงานนั้น ๆ ให้ชัดเจน เป็นการเพิ่มโฟกัสในการทำงานได้ดียิ่งขึ้น งานไหนต้องใช้เวลานาน งานไหนที่ใช้เวลาไม่มาก เมื่อทำตามเวลาที่วางไว้ เมื่อมีปัญหาหรือต้องการแก้ไขก็จะสามารถจัดการได้ดีมากขึ้น ดีกว่าเร่งงานในช่วงเวลาสุดท้าย

4. หาเวลาพักเบรกให้ตัวเอง

การหาเวลาให้ตัวเองเป็นเทคนิคการบริหารเวลาอย่างหนึ่งเหมือนกัน เพราะถ้าคุณทำงานหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นมากเกินไปจนลืมให้ความสำคัญกับตัวเอง อาจจะทำให้เวลาในอนาคตของคุณต้องเสียไปกับการรักษาสุขภาพทั้งกายและใจได้ การพักสมองให้ปลอดโปร่งในระหว่างทำงานก็จะช่วยให้ไอเดียในการทำงานเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

5. พิจารณาความเร่งด่วนของงานแทรก

หลายครั้งที่เทคนิคการบริหารเวลาถูกขัดด้วยงานแทรก ดังนั้นเมื่อมีงานด่วนอะไรเข้ามาคุณจำเป็นต้องคิดหาเหตุผลว่างานชิ้นนั้นเป็นงานด่วนจริง ๆ ที่ต้องทำก่อนงานอื่น หรือเป็นงานประเภทที่สามารถให้คนอื่นทำได้ หรือรอก่อน การพิจารณาที่มีเหตุผลจะช่วยให้การบริหารเวลาในการทำงานของคุณให้มีประสิทธิภาพ

6. ทำ To Do List ในแต่ละวัน

เทคนิคการบริหารเวลาด้วยการสร้างกรอบการมีวินัยในการลิสต์สิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันเอาไว้ เมื่อผ่านการวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลแล้วว่างานไหนที่ต้องทำก่อน งานไหนมีระยะเวลาเท่าไหร่ในการลงมือทำแล้ว การจัดงานเหล่านั้นให้อยู่ในไทม์ไลน์ในแต่ละวันก็ช่วยเรื่องการบริหารเวลาได้เป็นอย่างดี

7. ตัดงานที่ไม่จำเป็น

อย่างที่บอกแล้วว่างานต่าง ๆ มีลำดับความสำคัญ เทคนิคการบริหารเวลาที่ดีต้องรู้ว่างานไหนที่ไม่จำเป็นต้องทำ งานไหนที่ไม่ต้องเสียเวลามากในการทำ เพื่อใช้เวลาที่มีอยู่ทำในสิ่งที่ด่วนและสำคัญก่อน การตัดสิ่งที่ไม่ต้องทำไป ยังเป็นการประหยัดพลังงานในการทำงานของคุณอีกด้วย

8. จัดเวลาสำหรับการพักผ่อนและออกกำลังกาย

เทคนิคการบริหารเวลาจะสมบูรณ์ได้เมื่อคนที่ปฏิบัติมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ดังนั้นคุณต้องแบ่งเวลาเพื่อพักผ่อนและออกกำลังกาย หาสิ่งมีประโยชน์บำรุงร่างกายให้แข็งแรง เพราะถึงคุณจะวางแผนบริหารเวลาให้ดีอย่างไรแต่คุณไม่สามารถทำตามแผนนั้นได้เพราะการเจ็บป่วย เทคนิคการบริหารเวลาก็จะไม่ประสบความสำเร็จไปด้วย

สรุปบทความ

เทคนิคการบริหารเวลาทั้ง 8 ข้อนี้เป็นอย่างไรบ้าง ข้อไหนที่คุณทำอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว หรือข้อไหนคือสิ่งที่ควรปรับปรุงในการทำงานลองเอามาปรับใช้เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการใช้เวลาในการทำงานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ให้ผลงานออกมาตรงตามจุดประสงค์และได้ผลลัพธ์ตามต้องการมากที่สุดนั่นเอง