Logo
Work Life Balance คืออะไร ทำยังไงถึงจะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

Work Life Balance คืออะไร ทำยังไงถึงจะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

อะไรที่สมดุลกันย่อมทำให้ชีวิตแฮปปี้ เช่นเดียวกับชีวิตการทำงาน มาทำความรู้จักกับ Work Life Balance เทรนด์การทำงานที่คนรุ่นใหม่ใฝ่หา Work Life Balance คืออะไร ทำไมมีส่วนในการขับเคลื่อนองค์กร การทำงานนี้มีส่วนทำให้งานที่ออกมาดีขึ้นไหม ศักยภาพของพนักงานจะดีขึ้นอย่างไร วันนี้เรามาหาคำตอบกัน

Work Life Balance คืออะไร

Work Life Balance คืออะไร?

Work Life Balance  คือ แนวคิด ค่านิยมเกี่ยวกับการทำงานในรูปแบบปรับสมดุลให้การทำงานและการใช้ชีวิตควบคู่ไปพร้อม ๆ กันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ทำงานหนักเกินไป ไม่พักผ่อนมากเกินไป แต่เป็นการแบ่งเวลาทั้งสองอย่างให้พอดี หัวใจสำคัญของ Work Life Balance คือ ความรับผิดชอบในการทำงานด้วย ทำงานในเวลางานอย่างเต็มที่ และรับผิดชอบต่อชีวิตส่วนตัวนอกเวลางานด้วยการดูแลร่างกาย ดูแลสุขภาพใจอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน

ความสำคัญของการสร้าง Work Life Balance ต่อองค์กร

Work Life Balance คือระบบการทำงานที่เข้ามามีความสำคัญในองค์กรหลายองค์กรอย่างมาก การทำงานหนักแบบทุ่มสุดตัวไม่ได้แสดงประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานเสมอไป แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเครียด และส่งผลให้สุขภาพจิตเสื่อมไปตาม ๆ กัน ซึ่งแนวคิดการสร้าง Work Life Balance ในองค์กรจะเข้ามาช่วยให้พนักงานได้มีเวลาดูแลตัวเองทั้งสภาพจิตใจและร่างกาย ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

ความสำคัญของการสร้าง Work Life Balance ต่อองค์กรวิธีสร้าง Work Life Balance ในองค์กร

รู้กันแล้วว่า Work Life Balance คือตัวช่วยในการสร้างประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน ต่อมาเรามาดูวิธีการสร้าง Work Life Balance ในองค์กรกันบ้าง เริ่มจาก

1. ยืดหยุ่นเวลาเข้า-ออกงาน (Flexible Hours)

การบริหารเวลาที่ดีจะช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันมีความยืดหยุ่น และสามารถจัดสรรกิจกรรมได้อย่างลงตัว การเข้า-ออกงานที่มีความยืดหยุ่นก็เช่นเดียวกัน การกำหนดเวลาเข้างานไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการสร้างความกดดัน เพียงแต่ว่าในแต่ละวันพนักงานต้องเผชิญเรื่องราวต่าง ๆ และอาจจะมีบางวันที่ไม่สามารถเข้างานได้ตามเวลาที่กำหนดได้ ดังนั้นการเข้างานแบบยืดหยุ่นจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดตรงนั้น ใช้เกณฑ์การทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน เน้นผลงานมากกว่าเวลาในการทำงาน นับเป็นการสร้าง  Work Life Balanceอีกทางหนึ่ง

ยืดหยุ่นเวลาเข้า-ออกงาน (Flexible Hours)2. Work from Home หรือ Work from Anywhere

หลังสถานการณ์โควิด-19 การทำงานจากที่บ้านหรือที่เรียกว่า Work from home เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Work Life Balance มีประสิทธิภาพ การนั่งทำงานที่บ้านไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปกลับระหว่างบ้านกับออฟฟิศ ใช้เวลาตรงนั้นในการทำงานแทน นอกจากจะได้ประสิทธิภาพในการทำงานแล้ว ยังช่วยให้พนักงานไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยในการเดินทาง และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วย หรือการออกไปทำงานนอกออฟฟิศเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศก็เป็นการเพิ่มไอเดียในการทำงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

3. หมั่นเช็ก Workload ของพนักงาน

Work Life Balance คือระบบการทำงานที่มีสมดุลการทำงานและการใช้ชีวิตควบคู่กันไปได้อย่างพอดี ทำให้หนึ่งในวิธีที่จะสามารถสร้าง Work Life Balance ในองค์กรได้ก็คือ การแบ่งความรับผิดชอบและการกำหนด Workload ของพนักงานแต่ละคนอย่างชัดเจน กระจายงานให้พนักงานทุกคนตามหน้าที่ ไม่มากหรือน้อยเกินไป และต้องหมั่นสอบถามพนักงานเกี่ยวกับการทำงาน ปัญหาที่เจอ เพื่อเอามาแชร์ทางแก้ไขไปด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้พนักงานสามารถแบ่งเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. มีสวัสดิการที่ส่งเสริมสุขภาพ

สุขภาพที่ดีเป็นอีกจุดประสงค์ของ Work Life Balance องค์กรควรต้องมีสิทธิพิเศษในการรักษาสุขภาพ ส่งเสริมการออกกำลังกาย จัดกิจกรรมเพื่อให้พนักงานได้รู้จักการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง รวมไปถึงการดูแลสุขภาพใจของพนักงานด้วยการจัดสรรพื้นที่เพื่อการรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้วย

5. เคารพเวลาพักผ่อนของพนักงาน

Work Life Balance คือการที่พนักงานไม่ต้องทำงานแบบถวายหัว ดังนั้นเมื่อเป็นวันหยุด วันลา หรือเวลาพักผ่อนของพนักงาน องค์กรควรต้องเคารพในช่วงเวลานั้น ๆ ไม่สั่งงานตามใจ ไม่ก้าวก่ายช่วงเวลาพักของพนักงาน 

เคารพเวลาพักผ่อนของพนักงาน6. จัดพื้นที่สำนักงานให้มีมุมผ่อนคลาย

การจัดพื้นที่สำนักงานให้มีมุมที่พนักงานสามารถผ่อนคลาย  มีกิจกรรมที่พนักงานได้พักระหว่างวัน เป็นการสร้าง Work Life Balance อีกรูปแบบหนึ่ง เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดในการทำงาน และเมื่อพนักงานไม่ทำงานด้วยความกดดันและความเครียด แน่นอนว่าผลงานที่ออกมาจะมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

7. ให้ความสำคัญกับการมี Work Life Balance ในองค์กร

จากทุกข้อที่กล่าวมา Work Life Balance คือระบบการทำงานที่จะช่วยส่งเสริมให้พนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงาน มีสมดุลในการใช้ชีวิตมากขึ้น และหากอยากประสบความสำเร็จในเรื่องนี้องค์กรจำเป็นที่จะต้องส่งเสริม Work Life Balance ด้วย ทั้งฝั่งผู้บริหาร หัวหน้า พนักงาน หรือฝ่ายบุคคลควรจะต้องมีความเข้าใจเรื่อง Work Life Balance ให้ตรงกัน 

สรุปบทความ

Work Life Balance คือ ระบบการทำงานยุคใหม่ที่ปรับสมดุลให้การทำงานและการใช้ชีวิต เดินไปด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรในปัจจุบันเห็นความสำคัญกับ Work Life Balance มากขึ้น เพราะเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้นกว่าการทำงานแบบทุ่มเทสุดชีวิต Work Life Balance ไม่เป็นเพียงแค่พนักงานคนใดคนหนึ่ง หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในองค์เท่านั้น แต่เป็นความร่วมมือกันของทุกคนในองค์กร เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ ที่จะช่วยเพิ่มความสุขในการทำงานมากยิ่งขึ้น