Logo
เจาะความต่างระหว่าง Startup และ SMEs

เจาะความต่างระหว่าง Startup และ SMEs

ในแวดวงของการทำธุรกิจหลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า ธุรกิจ Startup และธุรกิจ SMEs กันอยู่แล้ว ซึ่งบางคนอาจเข้าใจว่าธุรกิจทั้ง 2 แบบนี้เหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วทั้ง 2 ธุรกิจนี้มีความแตกต่างกันอยู่ และเพื่อให้เหล่านักธุรกิจมือใหม่หรือผู้ที่กำลังสนใจในเรื่องของการทำธุรกิจ แยกได้ว่า Startup และ SME ต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกถึงทั้ง 2 ธุรกิจนี้แบบละเอียด

SME คืออะไร?

SME คือคำที่ย่อมาจาก Small and Medium Enterprises ที่หมายถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยธุรกิจ SMEs จะกล่าวถึงผู้ผลิตสินค้าและบริการ มีทั้งการค้าปลีก - ส่ง รวมถึงธุรกิจประเภทอื่น ๆ เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว, ธุรกิจร้านอาหาร, ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ในปัจจุบันธุรกิจ SMEs ถือเป็นกระดูกสันหลังที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยเลยทีเดียว

Startup คืออะไร?

Startup คือธุรกิจที่มีการสร้างขึ้นโดยใช้แนวคิดในการแก้ปัญหาที่มีอยู่ มุ่งเน้นไปที่การเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยผลผลิตของธุรกิจสตาร์ทอัพมักจะเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เข้ามามีบทบาททำให้มนุษย์สามารถใช้ชีวิตได้สะดวกมากขึ้น ส่วนมากแล้วธุรกิจประเภทนี้มักจะเป็นธุรกิจที่ให้บริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยของเราก็มีธุรกิจสตาร์ทอัพเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว

Startup และ SMEs ต่างกันอย่างไร

Startup และ SMEs ต่างกันอย่างไร

อย่างที่ได้มีการกล่าวไปในตอนต้นแล้วว่าธุรกิจทั้ง 2 ประเภทนี้มีความต่างกัน ดังนั้นเพื่อให้คุณผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น นี่คือวิธีสังเกตที่จะทำให้รู้ได้ว่า Startup และ SME ต่างกันอย่างไร

1. ขนาดของกิจการ

ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ Startup มักจะมีการเริ่มต้นจากธุรกิจที่มีขนาดเล็กมาก ๆ เน้นไปที่ไอเดียใหม่ ๆ และสินทรัพย์ทางปัญญาเป็นหลัก แต่หากเป็นธุรกิจ SMEs จะมีการเริ่มต้นธุรกิจขนาดใหญ่กว่า และสินทรัพย์จะเป็นสินทรัพย์ที่สามารถจับต้องได้

2. แนวคิดในการทำธุรกิจ

แนวคิดในการเริ่มทำธุรกิจถือเป็นสิ่งที่สามารถบ่งบอกได้ว่า Startup และ SME ต่างกันอย่างไร เพราะแนวคิดของธุรกิจ Startup มักจะเริ่มด้วยแนวคิดที่อยากจะแก้ไขปัญหาอะไรสักอย่าง เช่น การสร้าง Application เรียกรถแท็กซี่บนมือถือ เพื่อแก้ปัญหาให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหากับการโบกรถแท็กซี่บนท้องถนน แต่ในขณะที่แนวคิดของการทำธุรกิจ SME คือการผลิตสินค้าหรือบริการเพื่อตอบสนองความต้องการที่มากขึ้นของกลุ่มเป้าหมาย หรือเพื่อปรับปรุงสินค้าที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น

3. เทคโนโลยี

สำหรับธุรกิจ Startup ส่วนใหญ่แล้วมักที่จะนำเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจ แต่ในทางของธุรกิจ SMEs เทคโนโลยีที่เลือกใช้อาจไม่ใช่เทคโนโลยีที่ใหม่มาก โดยจะมุ่งเน้นไปในส่วนของเทคโนโลยีที่ตอบสนองกับกระบวนการผลิตเดิมแต่ปรับปรุงให้ดีมากขึ้น ใช้เทคโนโลยีที่ทำให้สินค้าหรือบริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวดเร็วมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

4. ผลกำไร

สำหรับธุรกิจ Startup อาจมองว่าเงินไม่ใช่ผลตอบแทนที่มีความสำคัญเท่าไหร่ การเติบโตของบริษัทนั้นมีความสำคัญมากกว่าสินทรัพย์ที่จับต้องได้ แต่ในส่วนของผลตอบแทนของธุรกิจ SME คือเงินและกำไร เพราะเม็ดเงินเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจ SMEs เติบโตต่อไปได้เรื่อย ๆ 

5. เงินทุน

เรื่องเงินทุนสำหรับธุรกิจทั้ง 2 ประเภท มีที่มาที่แตกต่างกันอย่างมากทีเดียว เนื่องจากธุรกิจ Startup จะใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนกับนักลงทุนที่มีความสนใจ แต่ในส่วนของธุรกิจ SME คือเงินที่มาจากเจ้าของกิจการหรือมาจากการกู้ยืมจากธนาคาร ที่เจ้าของกิจการเป็นผู้บริหารการเงินด้วยตัวเอง

 เงินทุน

สรุปบทความ

ก็จบลงไปแล้วกับข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ Startup และธุรกิจ SMEs ที่เรานำเอามาฝากในวันนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะทำให้ผู้ที่กำลังสนใจเกี่ยวกับการทำธุรกิจ เข้าใจถึงความหมายและเข้าใจว่าธุรกิจ Startup และ SME ต่างกันอย่างไร 

นอกจากนี้หากคุณกำลังอยากเริ่มต้นทำธุรกิจและกำลังมองหาออฟฟิศให้เช่า หรือต้องการออกแบบสำนักงานเพื่อให้พร้อมสำหรับการทำงาน สามารถเข้ามาดูออฟฟิศสำนักงานทำเลดีผ่านทางเว็บไซต์ CP TOWER ได้ ไม่ว่าคุณจะต้องการออฟฟิศสำนักงานจังหวัดไหน เราก็มีพร้อมให้บริหารทุกจังหวัดในประเทศไทย!!