รู้จัก Employee Experience กับแนวคิดที่มอบประสบการณ์ดีๆ แก่พนักงาน

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้รูปแบบการทำงานและแนวคิดของคนรุ่นใหม่นั้นเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดเลยว่าในหลาย ๆ องค์กรเริ่มหันมาให้ความสำคัญเกี่ยวกับ Employee Experience มากยิ่งขึ้น เพราะนอกจาก Employee Experience คือตัวช่วยในการมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้แก่พนักงานหรือบุคลากรแล้ว ยังเป็นตัวช่วยที่ทำให้เหล่าบุคลากรที่มีศักยภาพอยากทำงานอยู่ร่วมกับองค์กรนานมากขึ้นด้วย

Employee Experience คืออะไร

โดยปกติแล้วเรามักจะคุ้นชินกับคำว่า “Customer Experience” หรือประสบการณ์ของลูกค้ากันเป็นส่วนใหญ่ แต่ในช่วงหลังมาจะเริ่มเห็นหรือได้ยินเกี่ยวกับคำว่า Employee Experience กันมากขึ้น ซึ่ง Employee Experience คือการสร้างประสบการณ์การทำงานที่ทำให้เกิดความประทับใจ เป็นแนวคิดที่องค์กรหรือฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล (HR) หันมาให้ความสำคัญ เพื่อมุ่งเน้นให้พนักงานมีความรู้สึกรักและมีความสุขกับการทำงานภายใต้องค์กรที่ทำงานอยู่นั่นเอง

Employee Experience สำคัญอย่างไรกับองค์กร

จากงานวิจัยใน The State of the Global Workplace, A Worldwide Study of Employee Engagement and Wellbeing ของ Gallup ได้ให้แนวความคิดไว้ว่า การที่พนักงานหรือบุคลากรเกิดความรู้สึกรักและผูกพันกับองค์กร จะส่งผลให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรและจะอยากช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งเอาไว้ พนักงานจะเกิดความรู้สึกเต็มใจกับงานที่ได้รับมอบหมายและทำออกมาได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งหากองค์กรใช้แนวคิด Employee Experience ทำให้พนักงานเกิดความประทับใจได้ ก็ย่อมส่งผลดีต่อองค์กรในทุก ๆ ด้าน

แนวทางการสร้าง Employee Experience

การสร้าง Employee Experience สามารถสร้างได้หลายวิธี โดยความเหมาะสมอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ของแต่ละองค์กรเป็นหลัก แต่สำหรับองค์กรที่ต้องการแนวทางไปปรับใช้ นี่เป็นวิธีการสร้างประสบการณ์ในการทำงานที่ดีที่เราอยากแนะนำ

1. การใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัย

อุปกรณ์ที่ทันสมัยเป็นปัจจัยอีกหนึ่งอย่างที่ส่งผลให้พนักงานทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อะไรก็ตาม จะต้องมีความทันสมัย ใช้งานได้ดี และจะต้องมีการตรวจสอบคุณภาพอยู่เสมอ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการทำงาน ทำให้พนักงานทำงานได้ราบรื่นและสร้างผลงานที่น่าพึงพอใจออกมาอยู่เสมอ

2. การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี

อย่างที่รู้กันดีว่าโลกของการทำงานนั้นเรื่องความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อยู่เสมอ แต่หากยิ่งทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีจะยิ่งส่งผลให้ความเครียดที่มีสูงมากยิ่งขึ้นไปใหญ่ ดังนั้นการจัดพื้นที่สํานักงานให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการทำงาน, การสร้างมุมผ่อนคลาย, การจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์ และการแสดงความคิดเห็นในที่ทำงาน ย่อมทำให้เกิดความประทับใจและลดความเครียดที่เกิดขึ้นลงได้

3. การมีสวัสดิการที่น่าสนใจ

การมีสวัสดิการที่ดีและน่าสนใจเป็นวิธีการสร้าง Employee Experience ที่ได้ผลอย่างมาก เพราะสำหรับพนักงานแล้วนอกจากเงินเดือน “สวัสดิการ” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจร่วมงานกับองค์กรหรือบริษัทแต่ละแห่ง และหากองค์กรให้สวัสดิการที่พนักงานพึงพอใจจะส่งผลให้พนักงานมีกำลังใจในการทำงาน และพนักงานจะรู้สึกว่าองค์กรพร้อมที่จะดูแลเขาอย่างดี

4. การสนับสนุนด้านความรู้และทักษะ

พนักงานทุกคนไม่ว่าจะทำงานอยู่ในสายอาชีพอะไรย่อมมีการตั้ง Career Path หรือเส้นทางอาชีพของตัวเองเอาไว้เสมอ ดังนั้นการสนับสนุนในเรื่องความรู้และทักษะที่ส่งผลให้เติบโตตาม Career Path นอกจากจะเป็นการสร้าง Employee Experience ให้กับพนักงานแล้ว ยังส่งผลให้งานที่องค์กรได้รับจากพนักงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

5. การสนับสนุนแนวทางการทำงานแบบ New Normal

ในช่วงยุคโควิดระบาดหลายองค์กรได้มีการนำรูปแบบการทำงานเป็นรูปแบบ WFH และ Hybrid มาใช้ ซึ่งในปัจจุบันหลาย ๆ องค์กรก็ยังใช้รูปแบบการทำงานแบบนี้อยู่ถึงแม้ว่าสถานการณ์โควิดจะซาลง เพราะเห็นว่ารูปแบบการทำงานแบบ New Normal เป็นรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น ลดความตึงเครียด และสร้าง Employee Experience ได้

สรุปบทความ

แนวทาง Employee Experience คือการสร้างประสบการณ์การทำงานดี ๆ ให้กับบุคลากรภายในองค์กร เมื่อบุคลากรหรือพนักงานมีความรู้สึกดีกับองค์กร ย่อมทำให้เกิดผลดีกับองค์กรเป็นวงกว้างในทุก ๆ ด้าน 

สำหรับองค์กรที่อยากเริ่มต้นนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้ สามารถเริ่มได้ง่าย ๆ จากการเปิดช่องทางให้พนักงานแสดงความคิดเห็น และนำเอาความคิดเห็นที่ได้ไปปรับใช้ให้เหมาะสม รวมถึงการเลือกออฟฟิศให้เช่าที่อยู่ในสภาพแวดล้อมดี ๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่พนักงานมาสมัคร